FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORK
FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORK
: Advanced Facilitation Skills for Driving People & Culture Transformation
———————————————-
The Leader as Facilitator Series
** รับจำนวนจำกัด **
———————————————
ปลดล็อค | เปิดใจ | เปลี่ยนแปลง
“ทักษะการปลดล็อค และนำพาการพูดคุยที่สำคัญ ทลายกำแพง ให้ทีมงานเปิดใจ กล้าคิดเห็นแตกต่าง สร้างการตระหนักรู้ ให้คนอยากเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง”
Face-to-Face Workshop
วันที่ 27-29 กันยายน 2567 (09:00-18:00 น.)
ณ โรงแรมศิวาเทล BTS เพลินจิต
Virtual Workshop
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 (19:30–21:30 น.)
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 (10:00–12:00 น.)
*Virtual Workshop สามารถรับชมย้อนหลังได้
หลักสูตร “FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORK: Advanced Facilitation Skills for Driving People & Culture Transformation” โดย DOJO Spirit จัดหลักสูตร Public Training นี้สำหรับองค์กรที่ต้องการปลดล็อคศักยภาพของผู้นำและทีมงาน ให้กล้าแสดงความคิดเห็น กล้ามี Healthy Conflict กล้านำปัญหา/ประเด็นสำคัญขององค์กรมาพูดคุย หาทางออกร่วมกัน โดยมีความคิดเห็นแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ เป็นไปเพื่อการพัฒนาทีมงานไปสู่การเป็น High-Performing Team และช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างมีส่วนร่วม รวมถึงการสร้าง Buy-In กับทุกฝ่าย โดยใน Workshop จะมีการฝึกฝนแบบเข้มข้นลงลึกให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการนำไปประยุกต์ใช้กับบริบทองค์กรและบริบทงานของผู้เข้าอบรม
องค์กรที่สนใจส่งบุคลากรมาเข้าอบรม
สามารถติดต่อสอบถามสถาบัน DOJO Spirit
ได้ที่ โทร. 083 008 5588, 081 809 5525
Email: contact@dojospirit.co
คุณกำลังเผชิญกับปัญหา/ความท้าทายเหล่านี้หรือไม่?
- แม้ว่าทีมงาน/คนในองค์กรจะมีความรู้มีความสามารถ แต่กลับไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ทำให้ไม่สามารถคิดแก้ปัญหาที่สำคัญร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่องค์กรเจอวิกฤตและ ความท้าทายใหม่ๆ
- ทีมงานดู Nice ต่อกันมาก แต่จริงๆ แล้วมีคลื่นใต้น้ำ มีความขัดแย้งซ่อนอยู่ ไม่ได้เปิดใจพูดคุยกัน ทำให้ไม่สามารถพัฒนางานและแก้ปัญหาที่สำคัญขององค์กรได้
- ต้องเป็นผู้นำขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) แต่ยังไม่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและสร้าง Buy-In กับทุกฝ่ายได้
- ต้องค้นหาวาระ/ประเด็นที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กร (Transformation) แต่ไม่รู้ต้องทำอย่างไร
- ต้องเป็นผู้นำหรือคนกลาง ประสานความร่วมมือ ท่ามกลางทีมงานที่มีความขัดแย้งแตกต่างในมุมมองความคิด แต่ต้องหาจุดร่วมเพื่อเดินต่อไปด้วยกัน
- หลายองค์กรได้เรียนรู้กระบวนการและเครื่องมือใหม่ๆ (เช่น Agile, Design Thinking, กระบวนการคิดเชิง Innovation) แต่คนในทีมและในองค์กร ยังไม่สามารถ มี Healthy Debate / Healthy Conflict เพื่อคิดไอเดียใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาหรือคิดหาทางออกร่วมกันได้
- ต้องเผชิญกับคนที่ยาก/การพูดคุยที่ลำบากใจ (Difficult People & Difficult Conversation) ไม่รู้จะรับมืออย่างไร.
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับ
- ทักษะและกระบวนการที่จะช่วยปลดล็อคให้คนในทีม/ในองค์กร กล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมและสามารถคิดหาทางออกให้กับปัญหาที่สำคัญร่วมกันได้
- พัฒนาความเป็นผู้นำทีม/ผู้นำองค์กร ที่ช่วยให้คนกล้าคิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ มี Healthy Conflict กันได้ สร้างการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแก้ปัญหาที่เฉียบคมและทันต่อสถานการณ์/การเปลี่ยนแปลง
- เรียนรู้ศาสตร์ Process Work ที่จะช่วยแปรเปลี่ยนพลังของความขัดแย้งสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก (Conflict Transformation)
- ฝึกทักษะการค้นหาวาระการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของหน่วยงาน/องค์กร (Transformative Agenda) เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีส่วนร่วม
- เป็นผู้นำที่สามารถสร้าง Trust สร้างพื้นที่และความรู้สึกปลอดภัยทางใจในภาคปฏิบัติ (Psychological Safety in Action) ให้เกิดขึ้นได้จริงในทีมงานและในองค์กร
- เข้าใจกระบวนการที่ช่วยสนับสนุนเรื่อง Diversity, Equity, Inclusion (DEI) ให้เกิดขึ้นจริงในทีมงานและองค์กร
.
Why HEALTHY CONFLICT
Healthy Conflict ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในที่ทำงาน
สำคัญอย่างไร
ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ (Healthy Conflict) คือการที่เรากล้าที่จะเปิดใจพูดคุย เรียนรู้จากมุมมองที่แตกต่างกัน โดยที่ไม่ต้องพยายามอยู่ในโหมดปรองดอง หรือรักษาความสัมพันธ์ตลอดเวลา
มันคือการที่เราสร้างพื้นที่ปลอดภัยของการกล้าถกเถียงกันอย่างตรงไปตรงมาและช่วยให้ทุกฝ่ายเกิดการเรียนรู้เติบโต
ในภาพใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีขอบทางสังคม (Cultural Edge) ที่อาจถูกหล่อหลอมมาจากระบบการศึกษาที่ปลูกฝังให้เราเชื่อฟังทำตาม ในองค์กรไทย ขอบที่ว่านี้ก็ยังส่งผลอยู่มาก เช่น เรื่อง Seniority หรือความเคารพเกรงใจผู้ใหญ่ การพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การ Being Nice หรือที่เราพยายามแสดงออกถึงความรักใคร่ปรองดองกัน ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันเป็นเหมือนกำแพงที่ปิดกั้นการสื่อสาร ปิดกั้นไอเดียใหม่ๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถคิดแก้ปัญหา และหาความเป็นไปได้ใหม่ร่วมกัน
หลายองค์กรที่ลงทุนให้คนในองค์กรเรียนรู้กระบวนการคิดเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Design Thinking หรือ เรียนรู้วิถีการทำงานใหม่ๆเช่น Agile/ Scrum จึงเกิดได้ยาก เพราะขาดพื้นที่ปลอดภัยที่จะมี Healthy Conflict นั่นเอง
คนส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เวลาคิดเห็นแตกต่าง ก็มักเอาตามที่พี่หรือผู้ใหญ่พูด ซึ่งที่กล่าวถึงเหล่านี้ มันจะไม่พาเราไปไหนเลย ไม่ว่าจะเรื่องการร่วมคิดแก้ปัญหาหรือพัฒนาองค์กร มันจะเกิดขึ้นไม่ค่อยได้ เพราะเราไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าคิดเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ได้
Healthy Conflict จะเกิดขึ้นได้ในทีมหรือองค์กรได้ ผู้นำต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัย กล้าเปิดรับฟังมุมมองความคิดที่แตกต่าง ไม่รีบด่วนสรุปตัดสินถูกผิด เปิดรับความความขัดแย้งที่จะเป็นไปเพื่อการเรียนรู้เติบโตของคนในทีมและองค์กร
ประโยชน์ของการมี Healthy Conflict
1. ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และความไว้วางใจ (Trust) ช่วยปลดล็อคให้ก้าวข้ามโหมด Being Nice หรือพยายามปรองดอง โหมดเคารพเกรงใจ ไม่กล้าเห็นต่าง แต่เก็บความขีดแย้งซ่อนไว้ใต้พรม
2. ฝึกให้เราเปิดรับฟังและให้คุณค่ากับความคิดเห็นที่แตกต่าง เหมือนการฝึกที่จะมองเลข 6 กับ 9 จากคนละด้าน ว่าแต่ละฝ่ายมีมุมมอง โลกทัศน์และการให้คุณค่ากับแต่ละเรื่องแตกต่างกันอย่างไร
3. การเปิดรับความแตกต่างหลายหลาย (Diversity) ทำให้ได้เรียนรู้จากคนที่ต่าง Generation ต่างวัย ต่างมุมมองความคิด ต่างตำแหน่งหน้าที่ในองค์กร จะทำให้เรามองเห็นปัญหาอย่างรอบด้าน และช่วยให้ตัดสินใจได้เฉียบคม มีมุมมองเชิงระบบมากขึ้น
4. Healthy Conflict ช่วยสร้าง Buy-in (การยอมรับ) ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์กร กล่าวคือ ถ้าเราเปิดพื้นที่ให้คนในองค์กรแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง และมีการรับฟังที่ดี รวมถึงได้ถกกันถึงเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ จะทำให้คนที่แม้ไม่เห็นด้วย ได้เข้าใจและเปิดใจยอมรับ พร้อมที่จะเดินต่อไปด้วยกัน
5. Healthy Conflict เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการพัฒนาเรื่อง Innovation, People Transformation, Talent Development รวมถึงเรื่อง DEI (Diversity, Equity & Inclusion) อีกด้วย ถ้าเราสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยของการมี Healthy Conflict ได้ คนในทีมและองค์กรของเราก็จะเติบโตไปอีกระดับ
.
.
หัวข้อเรียนรู้
- Why Healthy Conflict: ทำไมการมี Healthy Conflict ถึงสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาทีม ผู้นำ หรือองค์กรยุคใหม่
- Why Facilitator and Facilitative Leadership: ทำไมผู้นำแบบ Facilitator จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในสังคม องค์กรและโลก
- The Principles of Facilitation: หลักการสำคัญของการ Facilitation
- Creating Safe Space & Psychological Safety in Action: การสร้างพื้นที่และความรู้สึกปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) ในภาคปฏิบัติให้เกิดขึ้นได้จริงในทีมงานและองค์กร
- Facilitating the 4 Phases of Conflict: ความขัดแย้ง 4 เฟส และวิธีการ Facilitate ในแต่ละเฟส
- Finding Transformative Issues: การค้นหาวาระกลุ่ม/องค์กร ที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง (Transformation)
- Skill Set for Reading and Noticing Group Signals: ทักษะการอ่านและสังเกตสัญญาณกลุ่มทั้งสัญญาณที่คนมี Awareness และไม่มี Awareness
- Working on the Edge of Transformation: ทักษะการทำงานบนขอบของกลุ่ม/ทีม/องค์กร เพื่อก้าวข้ามและสร้างการเปลี่ยนแปลง
- Deep Listening in the Midst of Conflict: ทักษะการฟังอย่างลุ่มลึกท่ามกลางความขัดแย้ง และมุมมองความคิดเห็นที่แตกต่าง
- Advanced Facilitation Skills: เรียนรู้และฝึกฝนทักษะ Facilitation ขั้น Advance ในการนำพาการพูดคุยของกลุ่มเพื่อการมีส่วนร่วม, การ Buy-In และสร้าง Healthy Conflict ให้เกิดการเรียนรู้เติบโตของทีม/องค์กร
- Dealing with Difficult People: ทักษะการรับมือกับคนที่ยากและท้าทาย
- Facilitating Conflict & Conversation that Matters: ทักษะการนำพาการพูดคุยที่สำคัญ และคลี่คลายความขัดแย้งในกลุ่ม/ทีมงาน
วัน/เวลา อบรม
Face-to-Face Workshop
วันที่ 27-29 กันยายน 2567 (09:00-18:00 น.)
ณ โรงแรมศิวาเทล BTS เพลินจิต
Virtual Workshop
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 (19:30–21:30 น.)
วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 (10:00–12:00 น.)
*Virtual Workshop สามารถรับชมย้อนหลังได้
คอร์สนี้เหมาะสำหรับ
- ผู้บริหาร, เจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการปลดล็อคและสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้คนกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงมุมมองที่แตกต่าง และคิดแก้ปัญหาร่วมกันได้
- ผู้นำ, หัวหน้าทีม, Talent, Team Leader ที่ต้องพัฒนาทักษะในการดูแลและดึงศักยภาพทีมงานให้กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น สร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางานที่สำคัญของทีม/องค์กร
- Change Agent, Agile Coach, Scrum Master ที่ต้องสร้างการมีส่วนร่วม ทำให้คนเปิดใจ และสร้าง Buy-In กับทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กร/โปรเจคที่สำคัญขององค์กร
- ผู้ที่ทำงาน HR, HROD, HRBP, People & Culture ที่ต้องรับฟังและสร้างการมีส่วนร่วมกับคนในองค์กร พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรให้เชื่อมโยงไปกับกลยุทธ์และเป้าหมายธุรกิจ/เป้าหมายองค์กร
- ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคนกลาง ประสานความร่วมมือ ท่ามกลางทีมงานที่มีความขัดแย้งแตกต่างในมุมมองความคิด แต่ต้องหาจุดร่วมเพื่อเดินต่อไปด้วยกัน
- บุคคลทั่วไปที่สนใจอยากพัฒนาตัวเอง ในเรื่อง
- ศาสตร์และศิลป์ของการเป็นผู้นำแบบ Facilitator และฝึกฝน Advanced Facilitation Skills
- ศาสตร์ Process Work เพื่อเข้าใจและเห็นภาพการประยุกต์ใช้ในบริบทองค์กร
- การรับมือกับคนที่ยากและท้าทาย Dealing with Difficult People
- การพัฒนาภาวะผู้นำในโลกยุคใหม่ พร้อมไปกับการตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness & Leadership Development)
- Personal Growth (การเติบโตด้านใน)
.
เกี่ยวกับผู้สอน
.
โอม รัตนกาญจน์ มีความสนใจฝึกฝนบ่มเพาะตนเองอยู่บนวิถีผู้นำกระบวนทัศน์ใหม่ หรือผู้นำแบบ Facilitator มากว่า 15 ปี
เขาเชื่อว่า งานแห่งชีวิตของเขา คือการสร้างบทสนทนาที่มีความหมายให้กับผู้คน
งานที่เขาและทีมเชี่ยวชาญคือ การช่วย Facilitate ปลดล็อคความขัดแย้ง แก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน นำพาการพูดคุยที่สำคัญ เพื่อให้ทีมงานและองค์กรไปต่อได้ รวมถึงช่วยสร้างทีม Change Agent เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างมีส่วนร่วม
เขาเป็นคนไทยคนแรกที่เรียนจบปริญญาโทเชิงวิชาชีพ ด้านการเป็นผู้นำแบบ Facilitator หรือ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ และ Advanced Facilitation Skills จากหลักสูตร Master of Art in Conflict Facilitation and Organizational Change จาก Process Work Institute มลรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา กับ Dr. Arnold Mindell และกลุ่มลูกศิษย์ที่พัฒนางานด้าน Large Group Facilitation ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสังคมและองค์กร ต่อเนื่องมากว่า 30 ปี
เขามีความหลงใหลในศาสตร์และศิลป์ของของการเป็นผู้นำแบบ Facilitator และมีความเชื่อว่าผู้นำในโลกยุคใหม่ คือผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงภายนอก ไปพร้อมกับบ่มเพาะการตื่นรู้ภายในให้กับตนเอง
อ. โอม มีประสบการณ์เป็นวิทยากร และที่ปรึกษาจัดฝึกอบรมและออกแบบโครงการพัฒนาผู้นำ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญขององค์กร” มามากกว่า 50 โครงการ รวมถึงจัดฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับ Leadership & Change Agent Development, Conflict Management & Facilitation, Building Trust & Cross-Functional Collaboration, Facilitation Skills for Leader, Dialogue for Organization Development มากกว่า 800 เวิร์คชอป ให้กับองค์กรชั้นนำในเมืองไทย ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ผู้จัดการ ถึงระดับปฏิบัติการ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงการต่างประเทศ, บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด, SCG (เครือปูนซีเมนต์ไทย), บริษัท TRUE และเครือ CP, PTT Group, Sasin School of Management รวมถึงองค์กรภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่งที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำ การประสานความร่วมมือ และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
.
ค่าอบรม
23,900 บาท
ราคานี้รวมอาหารกลางวันออร์แกนิคและ Coffee break ของเวิร์คชอปทั้ง 3 วัน
ราคา Early Bird 21,900 บาท เมื่อลงทะเบียนและจ่ายค่าอบรมภายในวันที่ 10 กันยายน 2567
*** พิเศษ สำหรับองค์กรที่สมัครตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป จะได้รับสิทธ์ Consulting Session 1.5 ชั่วโมง สำหรับปรึกษาโจทย์ความท้าทายที่อยากปลดล็อคในทีมงาน/องค์กร ***
(ราคารวม Vat 7% แล้ว)
*** รับจำนวนจำกัด ***
วิธีโอนเงินค่าอบรม
ชื่อบัญชี: บจก. เอช อาร์ บิสเนส พาร์ทเนอร์
ธนาคาร: กสิกรไทย
สาขา: แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา
เลขบัญชี: 006-3-86196-0
.
.
สำหรับผู้สนใจ สมัครได้ที่
https://forms.gle/fK4tpGwFNDmzoir1A
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ความประทับใจ
.
บรรยากาศการเรียนรู้และประสบการณ์จากผู้เข้าอบรม
คอร์ส The Art & Science of Facilitation
รับชมได้ที่ https://youtu.be/0kgZP-Rd_us
. 
ภาพบรรยากาศจากคอร์สใน Leader as Facilitator Series
.
“ มาเรียนแล้ว รู้สึกเหนือความคาดหมาย มันเป็นศาสตร์ใหม่ สำหรับเรามัน Wow
เวลาที่เราจะ Change องค์กร หรือ เปลี่ยนพฤติกรรมคน ทำไมมันไม่ไป เราไม่สามารถ Engage หรือ สร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นได้ ทำไมโปรเจคที่ดี คนไม่ Buy-in
ตอนแรกเข้าใจว่าการฟา คือการไปยืนหน้าห้องแล้วพยายามบิ้วท์ให้กลุ่มพูดอะไรออกมา
แต่จริงๆท่ามกลางความขัดแย้ง ทุกคนใจร้อน รีบเร่ง ศาสตร์การฟาช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการคุยกับตัวเองข้างใน ครอบครัว องค์กร ทีมเล็กๆของเรา มันตอบได้เกือบทุกโจทย์ในชีวิต ”
วิภา กังสดาล
ผู้ช่วยผู้อำนวยการ
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร
ธนาคารแห่งประเทศไทย
.;
.
“ ได้เรียนรู้มากมาย จากสิ่งที่ อ.โอม ได้ตกผลึก จากการเป็น Facilitator แล้วนำ Tips & Technic มาแบ่งบัน”
“ผมชอบในส่วนของ Mindset/Principle
เพียงแค่ Topic นี้ ก็ช่วยปรับ Mindset ให้ผมเป็น ผู้นำ/ผู้บริหาร ที่ดีกว่าที่ผมเป็นวันนี้”
ทวีพร เต็งประทีป
Managing Director
& Executive Coachบริษัท Jimi the Coach
.
“ รู้สึกประทับใจที่ได้ฝึกฝนและได้รับ Feedback จากการลงมือปฏิบัติจริง ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ในการสังเกตสัญญาณต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกลุ่ม และวิธีบริหารจัดการแบบ Facilitator
ชอบที่ได้เห็นแนวทางการสอนใหม่ๆ รวมถึงจิตวิทยา และ Theory ต่างๆ ที่น่าสนใจ ในบทบาทของการทำงานเป็น Agile Coach ในองค์กร สามารถเอาไปใช้ได้กับการ Facilitate retrospective, การทำ Focus Group Discussion รวมถึงการค้นหาขอบขององค์กร (Edge) เพื่อการเปลี่ยนแปลงได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ”
ประวีณา ศรีประยูรสกุล
Agile Coach
ExxonMobil Limited
.
“ สิ่งที่ชอบและเป็นประโยชน์ที่สุดในหลักสูตรนี้ คือ ประสบการณ์ที่ฝังเข้าไปในตัวเรา จากการเรียนรู้ที่จะ Facilitate ให้เป็น
อยากให้มาเรียนกัน เราจะได้มีคนเป็นฟาเยอะๆในประเทศ ”
ลินดา ติกกะวี
Managing Director
Reset Co., Ltd.
“ เวลาได้ลงเวิร์คชอป ทุกอย่างมันมาให้เห็นของจริง โดยเฉพาะการได้สังเกตสัญญาณกลุ่ม ทำให้เราได้ประโยชน์กับการฝึกทักษะ Facilitate กลุ่มตรงนี้เยอะมาก
ผมได้เห็นว่าการเป็นผู้นำแบบ Facilitator เป็น Skills ที่สามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้ ”
นพรัตน์ รัตนพงศ์ผาสุก
ผู้จัดการงานวิศวกรรมจราจรทางอากาศ
บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
“ ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ต้องดูน้องๆหลายคน มีความหลากหลาย เรารู้สึกว่าท้าทาย อยากพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้นำที่ดียิ่งขึ้น ดึงศักยถาพน้องออกมาได้มากขึ้น เราใช้ตัวเองน้อยลง อยากให้ทีมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำร่วมกัน
ชอบที่ได้ Learning by Doing และได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ จากต่างธุรกิจ ต่างเจนเนอเรชั่น ทำให้เกิดไอเดียต่อยอด ได้ตกผลึกกับตัวเอง ”
พรรณพิสี พรรณรังสี
Business Development Manager
บริษัท ดีพลัส อินเตอร์เทรด จำกัด
“ ได้ประโยชน์มากๆ เพราะเมื่อก่อนจะเป็นคนที่กลัว ความขัดแย้งมาก เวลาเจอก็จะหนี แต่พอเราได้มาเรียน ทำให้รู้สึกว่า ความขัดแย้ง มันดูแลได้ เรามีเครื่องมือที่จะดูว่า ความขัดแย้งแบบนี้ มันมีมิติอะไรซ่อนอยู่ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง ถ้าเราใช้การ Facilitation เข้าไปฟัง และเข้าใจ เราก็จะเห็นอะไรบางอย่าง มันเป็นมิติที่น่าสนใจมาก
รู้สึกขอบคุณหลักสูตรนี้จริงๆ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เนื้อหาของฟาแล้ว เราได้เครื่องมือดีๆ มาใช้กับตัวเอง ใช้กับงานและครอบครัว รู้สึกว่าเคริ่องมือนี้มีประโยชน์กับการดำรงอยู่ของมนุษย์ ที่เราต้องทำงานกับผู้คน
ทวีวรรณ กมลบุตร
Managing Director
Top Service Training
.
” ผมได้เรียนรู้ความสำคัญและเทคนิคการรับฟังทุกเสียง (Deep Democracy) รวมถึงพลังของการกล้าแชร์ความเปราะบาง (Vulnerability) …… ผมอยากแนะนำคอร์สนี้ให้กับเพื่อนที่อยากพัฒนาตนเอง เพื่อจะได้ทำเพื่อผู้อื่นได้มากขึ้นครับ “
ณัฐวัฒน์ ธีระเลิศธรรม
ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ
องค์การยุติธรรมนานาชาติ (International Justice Mission)
.
” ผมสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งในการถ่ายทอดศาสตร์และศิลป์ของการ Facilitation ผมได้เรียนรู้วิธีการค้นหาหัวข้อที่สำคัญในการสนทนา … ผู้เข้าร่วมอบรมก็แชร์แบ่งปันกันแบบ Authentic และมีความเป็นกัลยาณมิตรกันครับ “
กิตติ ไตรรัตน์
กระบวนกรผู้ส่งมอบแสงสว่างทางปัญญา
และผู้เยียวยาด้วยกระบวนการพากลับบ้าน
.
.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Email: contact@dojospirit.co
Tel: 083 008 5588, 081 809 5525
More info about DOJO Spirit
.
