FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORKPLACE

FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORKPLACE

: Creating a Culture of Open Communication & Collaboration

———————————————-

The Leader as Facilitator Series

———————————————

Virtual & Face-to-Face Workshop

**  รับจำนวนจำกัด **

 

“ปลดล็อคให้คนกล้าคิด กล้าแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์

เพื่อนำไปสู่การร่วมคิดแก้ปัญหาที่สำคัญของทีมและองค์กรได้”

 

Virtual Workshop

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 (19:30–21:30 น.)

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 (19:30–21:30 น.)

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 (9:00–12:00 น.) 

 

Face-to-Face Workshop

วันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 (09:00-18:00 น.)

ณ โรงแรมศิวาเทล BTS เพลินจิต

 

หลักสูตร FACILITATING HEALTHY CONFLICT AT WORKPLACE: Creating a Culture of Open Communication & Collaboration เป็นการฝึกฝนเรียนรู้ใน The Leader as Facilitator Series ของสถาบัน DOJO Spirit โดยคอร์สนี้มี Virtual Workshop (3 ครั้ง) และ Face-to-Face Workshop 3 วัน เพื่อเรียนรู้แนวคิดที่สำคัญของการเป็นผู้นำแบบ Facilitator และฝึกฝนทักษะ Facilitation เพื่อช่วยนำพาการพูดคุยที่สำคัญหรือปลดล็อค Conflict ที่มีภายในทีมงาน/ระหว่างทีม/ภายในองค์กร โดยใน Workshop จะมีการฝึกฝนแบบเข้มข้นลงลึก ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการนำไปประยุกต์ใช้กับบริบทองค์กร/งานของผู้เข้าอบรม 

 

หลักสูตรนี้ สามารถออกแบบเป็น In-House Training ให้กับองค์กรที่สนใจได้

โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามสถาบัน DOJO Spirit ได้ที่

โทร. 083 008 5588, 081 809 5525 

Email: contact@dojospirit.co

 


คุณกำลังเผชิญกับปัญหา/ความท้าทายเหล่านี้หรือไม่?

1.แม้ว่าทีมงาน/คนในองค์กรจะมีความรู้มีความสามารถ แต่กลับไม่กล้าแสดงความคิดเห็น   ทำให้ไม่สามารถนำไปสู่การคิดแก้ปัญหาที่สำคัญร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่องค์กรเจอวิกฤตและความท้าทาย

2. ทีมงานดู Nice ต่อกันมากๆ แต่จริงๆ แล้วมีความขัดแย้งซ่อนอยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง ไม่ได้พูดคุยเปิดใจกัน ทำให้ไม่สามารถพัฒนาและแก้ปัญหาที่สำคัญขององค์กรได้

3. หลายองค์กรได้เรียนรู้กระบวนการและเครื่องมือใหม่ๆ (เช่น Agile, Design Thinking, กระบวนการคิดเชิง Innovation) แต่คนในทีมและในองค์กร ยังไม่สามารถ มี Healthy Debate / Healthy Conflict เพื่อคิดไอเดียใหม่ๆ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อให้เกิด Innovation ให้กับองค์กรได้

4. ต้องเป็นผู้นำหรือคนกลาง ประสานความร่วมมือ ท่ามกลางทีมงานที่มีความขัดแย้งแตกต่างในมุมมองความคิด แต่ต้องหาจุดร่วมเพื่อเดินต่อไปด้วยกัน

5. ต้องเผชิญกับคนที่ยาก/การพูดคุยที่ลำบากใจ (Difficult People & Difficult Conversation) ไม่รู้จะรับมืออย่างไร

6. ต้องค้นหาวาระ/ประเด็นที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงองค์กร แต่ไม่รู้ต้องทำอย่างไร

 


สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้

1.ทีมงานร่วมคิดกันได้แบบ Healthy Debate เพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่มาจากการมีส่วนร่วมและทันต่อสถานการณ์/การเปลี่ยนแปลง

2. การมีผู้นำทีม/ผู้นำองค์กร ที่ทำให้คนกล้าคิดแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ มี Healthy Conflict กันได้ ให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างทีม การสร้าง Trust และ Innovation

3. คนในทีม/ในองค์กร กล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมและในการทำงานร่วมกัน

4. สามารถสร้างพื้นที่และความรู้สึกปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) ในภาคปฏิบัติให้เกิดขึ้น ได้จริงในทีมงานและในองค์กร

5. ผู้นำและคนในองค์กรช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์กรและการทำงานที่ให้คุณค่าเรื่อง Diversity, Equity, Inclusion

 


Why HEALTHY CONFLICT

Healthy Conflict ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ในที่ทำงาน

สำคัญอย่างไร

 

ขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ (Healthy Conflict) คือการที่เรากล้าที่จะเปิดใจพูดคุย เรียนรู้จากมุมมองที่แตกต่างกัน โดยที่ไม่ต้องพยายามอยู่ในโหมดปรองดอง หรือรักษาความสัมพันธ์ตลอดเวลา มันคือการที่เราสร้างพื้นที่ปลอดภัยของการกล้าถกเถียงกันอย่างตรงไปตรงมาและช่วยให้ทุกฝ่ายเกิดการเรียนรู้เติบโต

 

ในภาพใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีขอบทางสังคม (Cultural Edge) ที่อาจถูกหล่อหลอมมาจากระบบการศึกษาที่ปลูกฝังให้เราเชื่อฟังทำตาม ในองค์กรไทย ขอบที่ว่านี้ก็ยังส่งผลอยู่มาก เช่น เรื่อง Seniority หรือความเคารพเกรงใจผู้ใหญ่ การพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดี การ Being Nice หรือที่เราพยายามแสดงออกถึงความรักใคร่ปรองดองกัน ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันเป็นเหมือนกำแพงที่ปิดกั้นการสื่อสาร ปิดกั้นไอเดียใหม่ๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถคิดแก้ปัญหา และหาความเป็นไปได้ใหม่ร่วมกัน

 

หลายองค์กรที่ลงทุนให้คนในองค์กรเรียนรู้กระบวนการคิดเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Design Thinking หรือ เรียนรู้วิถีการทำงานใหม่ๆเช่น Agile/ Scrum จึงเกิดได้ยาก เพราะขาดพื้นที่ปลอดภัยที่จะมี Healthy Conflict นั่นเอง

 

คนส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เวลาคิดเห็นแตกต่าง ก็มักเอาตามที่พี่หรือผู้ใหญ่พูด ซึ่งที่กล่าวถึงเหล่านี้ มันจะไม่พาเราไปไหนเลย ไม่ว่าจะเรื่องการร่วมคิดแก้ปัญหาหรือพัฒนาองค์กร มันจะเกิดขึ้นไม่ค่อยได้ เพราะเราไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ไม่กล้าคิดเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ได้

 

Healthy Conflict จะเกิดขึ้นได้ในทีมหรือองค์กรได้ ผู้นำต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัย กล้าเปิดรับฟังมุมมองความคิดที่แตกต่าง ไม่รีบด่วนสรุปตัดสินถูกผิด เปิดรับความความขัดแย้งที่จะเป็นไปเพื่อการเรียนรู้เติบโตของคนในทีมและองค์กร

 

ประโยชน์ของการมี Healthy Conflict

1. ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และความไว้วางใจ (Trust) ช่วยปลดล็อคให้ก้าวข้ามโหมด Being Nice หรือพยายามปรองดอง โหมดเคารพเกรงใจ ไม่กล้าเห็นต่าง แต่เก็บความขีดแย้งซ่อนไว้ใต้พรม

 

2. ฝึกให้เราเปิดรับฟังและให้คุณค่ากับความคิดเห็นที่แตกต่าง เหมือนการฝึกที่จะมองเลข 6 กับ 9 จากคนละด้าน ว่าแต่ละฝ่ายมีมุมมอง โลกทัศน์และการให้คุณค่ากับแต่ละเรื่องแตกต่างกันอย่างไร

 

3. การเปิดรับความแตกต่างหลายหลาย (Diversity) ทำให้ได้เรียนรู้จากคนที่ต่าง Generation ต่างวัย ต่างมุมมองความคิด ต่างตำแหน่งหน้าที่ในองค์กร จะทำให้เรามองเห็นปัญหาอย่างรอบด้าน และช่วยให้ตัดสินใจได้เฉียบคม มีมุมมองเชิงระบบมากขึ้น

 

4. Healthy Conflict ช่วยสร้าง Buy-in (การยอมรับ) ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์กร กล่าวคือ ถ้าเราเปิดพื้นที่ให้คนในองค์กรแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง และมีการรับฟังที่ดี รวมถึงได้ถกกันถึงเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนต่างๆ จะทำให้คนที่แม้ไม่เห็นด้วย ได้เข้าใจและเปิดใจยอมรับ พร้อมที่จะเดินต่อไปด้วยกัน

 

5. Healthy Conflict เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการพัฒนาเรื่อง Innovation, People Transformation, Talent Development รวมถึงเรื่อง DEI (Diversity, Equity & Inclusion) อีกด้วย ถ้าเราสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยของการมี Healthy Conflict ได้ คนในทีมและองค์กรของเราก็จะเติบโตไปอีกระดับ

.


.

หัวข้อเรียนรู้

  • Why Healthy Conflict: ทำไมการมี Healthy Conflict ถึงสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาทีม ผู้นำ หรือองค์กรยุคใหม่
  • Why Facilitator and Facilitative Leadership: ทำไมผู้นำแบบ Facilitator จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นในสังคม องค์กรและโลก
  • New Leadership & Management Paradigm:กระบวนทัศน์ใหม่ของผู้นำและการบริหารคน
  • The Principles of Facilitation: หลักการสำคัญของการ Facilitation
  • Creating Safe Space & Psychological Safety in Action: การสร้างพื้นที่และความรู้สึกปลอดภัยทางใจ (Psychological Safety) ในภาคปฏิบัติให้เกิดขึ้นได้จริงในทีมงานและในองค์กร
  • 5 Factors of Conflict in Workplace: ปัจจัย 5 แบบที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในที่ทำงาน
  • 4 Phases of Conflict: ความขัดแย้ง 4 เฟส
  • Psychology of Group Facilitation:จิตวิทยาว่าด้วยการ Facilitate กลุ่ม
  • Reading and Noticing Signal: การอ่านและสังเกตสัญญาณกลุ่ม ทั้งสัญญาณที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
  • Essential Facilitation Skills:เรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการ Facilitate การพูดคุยของกลุ่มและการมี Healthy Conflict
  • Finding Transformative Issues: การค้นหาวาระกลุ่ม/องค์กร ที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง
  • Facilitating Conflict & Conversation that Matters: ศิลปะของการนำพาการพูดคุยที่สำคัญ และคลี่คลายความขัดแย้งในกลุ่ม/ทีมงาน

 


วัน/เวลา อบรม

Virtual Workshop  

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน 2565 (19:30–21:30 น.)

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 (19:30–21:30 น.)

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 (9:00–12:00 น.) 

*Virtual Workshop สามารถรับชมย้อนหลังได้

 

Face-to-Face Workshop

วันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 (09:00-18:00 น.)

ณ โรงแรมศิวาเทล BTS เพลินจิต

 


 

คอร์สนี้เหมาะสำหรับ

  1. ผู้บริหาร, เจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการปลดล็อคให้ทีมหรือคนในองค์กรสามารถกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงมุมมองที่แตกต่าง และคิดแก้ปัญหาร่วมกันได้
  2. ผู้นำ, หัวหน้าทีม, Manager, Supervisor ที่ต้องพัฒนาทักษะในการดูแลทีมงานให้กล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
  3. Change Agent, Agile Coach, Scrum Master ที่ต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกฝ่ายในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กร/โปรเจคที่สำคัญขององค์กร
  4. ผู้ที่ทำงาน HR, HROD, HRBP ที่ต้องรับฟังและสร้างการมีส่วนร่วมกับคนในองค์กร พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรให้เชื่อมโยงไปกับกลยุทธ์และเป้าหมายธุรกิจ/เป้าหมายองค์กร
  5. วิทยากร, Coach, Trainer, ที่ปรึกษาที่ต้องการต่อยอดทักษะ Group Facilitation เพื่อรับมือกับคนและบทสนทนาที่ยาก (Difficult People & Difficult Conversation)
  6. บุคคลทั่วไปที่สนใจอยากพัฒนาตัวเอง ในเรื่อง
  • ศาสตร์และศิลป์ของการเป็นผู้นำแบบ Facilitator และ Facilitation Skills
  • ศาสตร์ Process Work เพื่อเข้าใจและเห็นภาพการประยุกต์ใช้ในบริบทองค์กร 
  • การรับมือกับคนที่ยาก Dealing with Difficult People & Difficult Conversation 
  • Self-Awareness & Leadership Development
  • Personal Growth (การเติบโตด้านใน)

 


.

เกี่ยวกับผู้สอน

.

อ.โอม รัตนกาญจน์ มีความสนใจฝึกฝนบ่มเพาะตนเองอยู่บนวิถีผู้นำกระบวนทัศน์ใหม่ หรือ Facilitator  มากว่าสิบปี

 

เขาเชื่อว่า งานแห่งชีวิตของเขา คือการสร้างบทสนทนาที่มีความหมายให้กับผู้คน

 

งานที่เขาและทีมเชี่ยวชาญคือ การช่วย Facilitate ปลดล็อคความขัดแย้ง แก้ปัญหาที่ยากและซับซ้อน นำพาการพูดคุยที่สำคัญ เพื่อให้ทีมงานและองค์กรไปต่อได้ รวมถึงช่วยสร้างทีม Change Agent เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างมีส่วนร่วม

 

เขาเป็นคนไทยคนแรกที่เรียนจบปริญญาโทเชิงวิชาชีพ ด้านการเป็น Facilitator หรือผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Master of Art in Conflict Facilitation and Organizational Change) จากสถาบัน Process Work Institute มลรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา กับ Dr.Arnold Mindell และกลุ่มลูกศิษย์ที่พัฒนางาน Facilitation ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสังคมและองค์กร ต่อเนื่องมากว่า 30 ปี

 

เขามีความหลงใหลในศาสตร์และศิลป์ของของงาน Facilitator และมีความเชื่อว่าผู้นำในโลกยุคใหม่ คือผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงภายนอก ไปพร้อมกับบ่มเพาะการตื่นรู้ภายในให้กับตนเอง

 

อ.โอม มีประสบการณ์เป็นวิทยากรและที่ปรึกษาจัดฝึกอบรม “โครงการพัฒนาผู้นำ/ผู้บริหาร เพื่อแก้ไขปัญหาที่สำคัญขององค์กร” มามากกว่า 40 โครงการ รวมถึงจัดฝึกอบรม “ด้านการสร้างผู้นำ สร้างสัมพันธ์และความร่วมมือในองค์กร” มากกว่า 700 เวิร์คช็อป ให้กับองค์กรชั้นนำในเมืองไทย ตั้งแต่ระดับผู้บริหารถึงระดับปฏิบัติการ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงการต่างประเทศ, บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด, SCG (เครือปูนซีเมนต์ไทย), PTT Group รวมถึงองค์กรภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจอีกหลายแห่งที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้นำและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ผู้คนพร้อมเปิดรับและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง

.

 

 


ค่าอบรม

21,900 บาท 

(ราคา Early Bird 18,900 บาท เมื่อลงทะเบียนและจ่ายค่าอบรมภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565)

ราคานี้รวมอาหารกลางวันออร์แกนิคและ Coffee break ของเวิร์คชอปทั้ง 3 วัน

 

และทุกท่านที่ลงละเบียนคอร์สนี้จะได้รับสิทธิ์ Private Consulting Session

เพื่อปรึกษาโจทย์/ปัญหา/โปรเจคการเปลี่ยนแปลงองค์กร (1 ชั่วโมง/คน ทาง Zoom, มูลค่า 10,000 บาท)

(ราคารวม Vat 7% แล้ว)

 

***  รับจำนวนจำกัด ***


 

วิธีโอนเงินค่าอบรม

ชื่อบัญชี: บจก. เอช อาร์ บิสเนส พาร์ทเนอร์

ธนาคาร: กสิกรไทย

สาขา: แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา

เลขบัญชี: 006-3-86196-0

.


.

สำหรับผู้สนใจ สมัครได้ที่

https://forms.gle/BdZsuyTvPVEcxaKU6

.

.

.

.

.

.


.

.

ความประทับใจ 

.

บรรยากาศการเรียนรู้และประสบการณ์จากผู้เข้าอบรม

คอร์ส The Art & Science of Facilitation 

รับชมได้ที่ https://youtu.be/0kgZP-Rd_us

.

“ มาเรียนแล้ว รู้สึกเหนือความคาดหมาย มันเป็นศาสตร์ใหม่ สำหรับเรามัน Wow

เวลาที่เราจะ Change องค์กร หรือ เปลี่ยนพฤติกรรมคน ทำไมมันไม่ไป เราไม่สามารถ Engage  หรือ สร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นได้ ทำไมโปรเจคที่ดี คนไม่ Buy-in

ตอนแรกเข้าใจว่าการฟา คือการไปยืนหน้าห้องแล้วพยายามบิ้วท์ให้กลุ่มพูดอะไรออกมา

แต่จริงๆท่ามกลางความขัดแย้ง ทุกคนใจร้อน รีบเร่ง ศาสตร์การฟาช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการคุยกับตัวเองข้างใน ครอบครัว องค์กร ทีมเล็กๆของเรา มันตอบได้เกือบทุกโจทย์ในชีวิต ”

 

วิภา กังสดาล

ผู้ช่วยผู้อำนวยการ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร

ธนาคารแห่งประเทศไทย

.;

 

“ สิ่งที่ชอบและเป็นประโยชน์ที่สุดในหลักสูตรนี้ คือ ประสบการณ์ที่ฝังเข้าไปในตัวเรา  จากการเรียนรู้ที่จะ Facilitate ให้เป็น 

อยากให้มาเรียนกัน เราจะได้มีคนเป็นฟาเยอะๆในประเทศ ”

 

ลินดา ติกกะวี

Managing Director

Reset Co., Ltd.

 

 

“ ขึ้นมาเป็นหัวหน้า ต้องดูน้องๆหลายคน  มีความหลากหลาย เรารู้สึกว่าท้าทาย อยากพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้นำที่ดียิ่งขึ้น ดึงศักยถาพน้องออกมาได้มากขึ้น เราใช้ตัวเองน้อยลง อยากให้ทีมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำร่วมกัน

ชอบที่ได้ Learning by Doing และได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ จากต่างธุรกิจ ต่างเจนเนอเรชั่น  ทำให้เกิดไอเดียต่อยอด ได้ตกผลึกกับตัวเอง ”

 

พรรณพิสี พรรณรังสี

Business Development Manager

บริษัท ดีพลัส อินเตอร์เทรด จำกัด

 

 

“ เวลาได้ลงเวิรค์ชอป ทุกอย่างมันมาให้เห็นของจริง โดยเฉพาะการได้สังเกตสัญญาณกลุ่ม  ทำให้เราได้ประโยชน์กับการฝึกทักษะ Facilitate กลุ่มตรงนี้เยอะมาก

ผมได้เห็นว่าการเป็นผู้นำแบบ Facilitator เป็น Skills ที่สามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้ ”

 

นพรัตน์ รัตนพงศ์ผาสุก

ผู้จัดการงานวิศวกรรมจราจรทางอากาศ

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด

 

 

“ ได้ประโยชน์มากๆ เพราะเมื่อก่อนจะเป็นคนที่กลัว ความขัดแย้งมาก เวลาเจอก็จะหนี แต่พอเราได้มาเรียน ทำให้รู้สึกว่า ความขัดแย้ง มันดูแลได้  เรามีเครื่องมือที่จะดูว่า ความขัดแย้งแบบนี้ มันมีมิติอะไรซ่อนอยู่ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง  ถ้าเราใช้การ Facilitation เข้าไปฟัง และเข้าใจ เราก็จะเห็นอะไรบางอย่าง มันเป็นมิติที่น่าสนใจมาก

รู้สึกขอบคุณหลักสูตรนี้จริงๆ  เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้เนื้อหาของฟาแล้ว  เราได้เครื่องมือดีๆ มาใช้กับตัวเอง ใช้กับงานและครอบครัว รู้สึกว่าเคริ่องมือนี้มีประโยชน์กับการดำรงอยู่ของมนุษย์  ที่เราต้องทำงานกับผู้คน

ทวีวรรณ กมลบุตร

 Top Service Training

 

 

 

 

” ได้เรียนรู้มากมาย จากสิ่งที่ อ.โอม ได้ตกผลึกจากการเป็น Facilitator แล้วนำ Tips & Technic มาแบ่งบัน”

“ผมชอบในส่วนของ Mindset/Principle เพียงแค่  Topic นี้ ก็ช่วยปรับ Mindset ให้ผมเป็น ผู้นำ/ผู้บริหาร ที่ดีกว่าที่ผมเป็นวันนี้”

ทวีพร เต็งประทีป
Managing Director
& Executive Coach

บริษัท Jimi the Coach

.

“ประทับใจในความ Authenticity, Simple, Real ความมีอะไรในความไม่มีอะไร …….. ความสด ที่สามารถดึงสถานการณ์จริงมาให้กลุ่มได้มีการเรียนรู้และตระหนักรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น …….. เป็นประโยชน์ต่อทุกอาชีพที่จะฝึกเป็นผู้ฟัง ผู้ Facilitate ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในชุมชน/องค์กร ครอบครัว และสังคมที่เราอยู่ “

นันทนัช ยงศิลป์วิริยะกุล

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

.

” ผมได้เรียนรู้ความสำคัญและเทคนิคการรับฟังทุกเสียง (Deep Democracy) รวมถึงพลังของการกล้าแชร์ความเปราะบาง (Vulnerability) …… ผมอยากแนะนำคอร์สนี้ให้กับเพื่อนที่อยากพัฒนาตนเอง เพื่อจะได้ทำเพื่อผู้อื่นได้มากขึ้นครับ “

ณัฐวัฒน์ ธีระเลิศธรรม

ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ

องค์การยุติธรรมนานาชาติ (International Justice Mission)

.

” ผมสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งในการถ่ายทอดศาสตร์และศิลป์ของการ Facilitation ผมได้เรียนรู้วิธีการค้นหาหัวข้อที่สำคัญในการสนทนา … ผู้เข้าร่วมอบรมก็แชร์แบ่งปันกันแบบ Authentic และมีความเป็นกัลยาณมิตรกันครับ “

กิตติ ไตรรัตน์

กระบวนกรผู้ส่งมอบแสงสว่างทางปัญญา

และผู้เยียวยาด้วยกระบวนการพากลับบ้าน

.

.


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Email: contact@dojospirit.co

Tel: 083 008 5588, 081 809 5525 

 

More info about DOJO Spirit

www.dojospirit.co

.

 

 

 

 

 

 

Print Friendly, PDF & Email